วันนี้ไปเจอคนแชร์เนื้อหา Cheat Sheet ที่สรุปเรื่อง “System Design” เลยเอามาเขียนไว้สักหน่อย
เพราะหลายๆ ครั้งผมก็ลืมเหมือนกัน บางทีก็เก็บไม่ครบ 😝

1. Requirement Gathering (เก็บความต้องการให้ครบ)
- แยกความต้องการเป็น functional กับ non-functional
- คิด user story / flow การใช้งานให้ชัด
- จัดลำดับความสำคัญตามเป้าหมายของธุรกิจ
- ดู dependencies และข้อจำกัดต่าง ๆ ให้ครบ
2. System Architecture (วางโครงสร้างระบบ)
- วางแผนว่าระบบมี component อะไรบ้าง เชื่อมกันยังไง
- เลือก architectural pattern ที่เหมาะ (เช่น Microservice, Monolith)
- คิดเผื่อเรื่อง scalability และ maintainability ด้วย
- เทียบข้อดีข้อเสียระหว่างระบบรวม (monolith) กับแยก (distributed)
3. Data Design (ออกแบบข้อมูลให้ดีตั้งแต่ต้น)
- วาง schema, ความสัมพันธ์ระหว่าง table/entity
- เลือกฐานข้อมูลที่เหมาะกับงาน (SQL / NoSQL)
- วางแผนเรื่อง backup, retention และ archive
- รู้ว่าเมื่อไรควร normalize และเมื่อไรควร denormalize
4. Domain Design (แยกงานตามธุรกิจ)
- แบ่งระบบเป็น domain ตาม logic ธุรกิจ
- ให้แต่ละ domain ทำงานเป็นอิสระ (encapsulate)
- ลด dependency ข้าม domain
- กำหนดความรับผิดชอบของแต่ละ domain ให้ชัด
5. Scalability (รองรับการเติบโตของผู้ใช้)
- วางแผน horizontal/vertical scaling
- ใช้ load balancer ช่วยกระจายโหลด
- partition / shard ข้อมูลให้ดี
- ใช้ autoscaling รับมือกับ traffic พุ่งสูง
6. Reliability (ระบบต้องพังยาก!)
- ออกแบบให้ tolerant ต่อความผิดพลาด
- มี monitoring, alert และ logging ที่ดี
- เตรียมแผน backup & restore
- ใช้ retry, circuit breaker, timeout ให้เหมาะ
7. Availability (ระบบต้องพร้อมใช้งาน)
- ทำ data replication ไว้หลาย node
- มี failover แก้ปัญหาเวลาระบบล่ม
- กำหนด RTO/RPO ไว้ชัดเจน
- ทดสอบ HA (High Availability) เป็นประจำ
8. Performance (เร็วไว้ก่อน!)
- ลด latency เพิ่ม throughput
- ใช้ cache สำหรับข้อมูลที่เรียกบ่อย
- ปรับ query และ algorithm ให้ดี
- บีบอัดข้อมูลช่วยให้ส่งเร็วขึ้น
9. Security (ปลอดภัยไว้ก่อน)
- มีระบบ Auth (authentication/authorization)
- เข้ารหัสข้อมูลทั้งตอนเก็บและส่ง
- ตรวจสอบช่องโหว่ระบบสม่ำเสมอ
- ป้องกัน API / Endpoint จากการโจมตี
10. Maintainability (ดูแลง่าย ไม่ปวดหัว)
- เขียนโค้ดให้สะอาดและแยกเป็น module
- ใช้เครื่องมือช่วย deploy / version control
- ออกแบบให้ระบบขยายได้แบบไม่พังของเดิม
- มี CI/CD pipeline ช่วยให้ deploy ปลอดภัยและเร็ว
11. Testing (ทดสอบ ทดสอบ ทดสอบ!)
- มี unit test, integration test, E2E test
- โหลดเทสระบบเพื่อดู performance
- ตรวจสอบ API ให้แน่ใจว่าเข้าออกถูกต้อง
- ตรวจช่องโหว่ความปลอดภัยด้วย
12. User Experience Design (คิดถึงคนใช้จริง)
- UI ต้องใช้ง่าย ตอบสนองไว
- วาง flow ให้ใช้งานเร็ว ไม่ซับซ้อน
- ทำ usability testing บ่อย ๆ
- รองรับการเข้าถึงสำหรับทุกกลุ่มผู้ใช้ (Accessibility)
13. Cost Estimation (ประเมินงบให้ดี)
- ดูต้นทุน hardware / infrastructure
- ประเมินค่าใช้จ่ายจาก scaling / license
- ใช้ cloud อย่างมีประสิทธิภาพ
- กันงบสำหรับ DR และ failover
14. Documentation (เขียนไว้เถอะ ใช้ทีหลังคุ้ม)
- ทำเอกสารเทคนิคและ architecture ให้ทันสมัย
- มี API doc / คู่มือใช้งาน
- ใช้ diagram ช่วยให้เห็นภาพรวม
- จัด version ให้แชร์และอัปเดตง่าย
15. Migration Plan (ย้ายระบบอย่างมีแผน)
- เช็กความเข้ากันของระบบเก่า-ใหม่
- มี step-by-step migration plan
- ทดสอบใน staging ก่อน
- ตรวจสอบข้อมูลหลัง migrate ว่าครบและถูกต้อง