การรับมือลูกน้องหลากสไตล์ แน่นอนว่าทีมงานของเราไม่ได้มีแค่คนๆ เดียว และแต่ละคนก็มีสไตล์การทำงานที่ไม่เหมือนกัน บางคนขยันเกินเบอร์ บางคนต้องให้จี้ตลอด บางคนชอบอิสระ บางคนต้องการคำสั่งชัดๆ หัวหน้าที่ดีไม่ใช่คนที่เปลี่ยนทุกคนให้เหมือนกัน แต่คือคนที่ “เข้าใจ” และ “ปรับการนำ” ให้เหมาะกับแต่ละคน
บทความนี้สรุปว่าเรารับมือกับลูกทีมหลากสไตล์ยังไง?
อ่านให้ออกว่าแต่ละคนต้องการอะไร
แต่ละคนมีแรงจูงใจไม่เหมือนกัน ถ้าคุณใช้วิธีเดียวกับทุกคน บางคนอาจจะเฟื่องฟู แต่บางคนอาจจะเฟลได้ ลองสังเกตดูว่าลูกทีมของคุณเป็นสไตล์ไหน แล้วปรับวิธีการทำงานให้เหมา
- คนชอบอิสระ → ให้เป้าหมายที่ชัดเจน แต่ปล่อยให้เขาวางแผนเอง
- คนต้องการคำสั่ง → ให้แนวทางที่ชัด พร้อมติดตามเป็นระยะ
- คนชอบแสดงออก → ให้พื้นที่เขาได้แชร์ไอเดีย ได้แสดงผลงาน
- คนต้องการความมั่นใจ → ให้ฟีดแบคบ่อยๆ และช่วยเขาเห็นคุณค่าของตัวเอง
เปลี่ยนจาก "บังคับ" เป็น "เข้าใจ"
บางครั้งลูกทีมไม่ได้ทำงานไม่ดี แต่แค่มีวิธีการทำงานที่ต่างจากเรา หัวหน้าที่ดีต้องเลิกคิดว่า “ทำไมไม่ทำแบบที่ฉันคิด?” แล้วเปลี่ยนเป็น “มีอะไรที่ฉันต้องเข้าใจเพิ่ม?
- ตั้งคำถามก่อนจะตัดสิน เช่น “ทำไมถึงเลือกวิธีนี้?” แทนที่จะบอกว่า “ทำไมไม่ทำตามสั่ง?”
- เปิดใจรับวิธีการทำงานที่หลากหลาย ถ้ามันได้ผลลัพธ์ที่ดี ก็โอเค
- แทนที่จะควบคุมทุกอย่าง ลองให้ทีมได้แสดงความคิดเห็นและลองทำในสไตล์ของตัวเอง
ยืดหยุ่น แต่ยังคงมาตรฐานให้ทีมเดินไปทางเดียวกัน
ถึงแม้ลูกทีมแต่ละคนจะมีสไตล์ต่างกัน แต่สุดท้าย ทีมต้องมี “เป้าหมายเดียวกัน” ถ้าปล่อยให้ทุกคนทำตามใจเกินไป อาจจะกลายเป็นวุ่นวาย
- กำหนด กฎที่ยืดหยุ่น → มีมาตรฐานที่ชัด แต่เปิดช่องให้ปรับได้
- เน้นเป้าหมาย มากกว่าวิธีการ → ขอให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ไม่จำเป็นต้องทำแบบเดียวกันหมด
- ใช้ KPI หรือ OKR ที่วัดผลชัดเจน เพื่อให้ทุกคนไปในทิศทางเดียวกัน
ใช้จุดแข็งของแต่ละคน แทนที่จะพยายามเปลี่ยนเขา
บางคนถนัดวางแผน บางคนถนัดลงมือทำ บางคนเก่งเรื่องการประสานงาน บางคนคิดสร้างสรรค์ การพยายามให้ทุกคนเก่งเหมือนกันอาจทำให้เสียเวลา แต่ถ้าใช้จุดแข็งของแต่ละคน ทีมจะไปได้เร็วกว่า
- หาจุดแข็งของแต่ละคน แล้วมอบหมายงานให้เหมาะสม
- ถามพวกเขาโดยตรงว่า “งานแบบไหนที่คุณถนัดและสนุก?”
- จับคู่คนที่มีจุดแข็งต่างกันให้ช่วยเหลือกัน เช่น คนคิดเร็ว จับคู่กับคนละเอียด
สื่อสารให้เคลียร์ ลดความเข้าใจผิด
การที่ลูกทีมมีสไตล์ต่างกัน อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ง่าย หัวหน้าต้องเป็นคนที่สื่อสารชัดเจน และตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกคนเข้าใจตรงกัน
- ใช้ภาษาที่ง่าย ตรงประเด็น ไม่คลุมเครือ
- สรุปสิ่งที่ตกลงกันหลังจากประชุม หรือใช้ข้อความยืนยันเพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน
- เปิดโอกาสให้ทีมถาม ถ้าไม่เข้าใจ ไม่ใช่แค่สั่งแล้วปล่อยไป
สุดท้าย ถ้าคุณพยายามให้ทุกคนเหมือนกัน คุณจะเหนื่อยและไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ถ้าคุณเข้าใจและปรับให้เหมาะกับแต่ละคน ทีมจะเดินไปข้างหน้าได้เร็วกว่าเดิม!
- เข้าใจลูกทีม = ลดปวดหัว
- ใช้จุดแข็งของแต่ละคน = เพิ่มประสิทธิภาพ
- ตั้งเป้าหมายเดียวกัน = ทีมไปในทิศทางเดียวกัน